วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

สารคดีสัตว์น้ำใต้ล่ำลึก



ชิงสารคดี 3 มิติชิ้นแรก “Secret Ocean 3D’’ เผยชีวิตสัตว์ใต้ทะเลที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

ถ้าจะพูดว่า Jean-Michel Cousteau เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ก็คงไม่ผิด เขาทุ่มเทชีวิตไปกับการสำรวจชีวิตสัตว์ใต้ท้องทะเล ตามรอยเท้าของบิดา Jacques Cousteau เป็นนักสำรวจใต้ทะเลและผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อก้องโลก
Jean-Michel Cousteau พร้อมทีมงานใช้กล้อง IMAX ในการถ่ายภาพวิดีทัศน์ใต้ท้องทะเลยาวนาน 100 ชั่วโมงเพื่อผลิตเป็นภาพยนตร์เชิงสารคดีชุดพิเศษยาว 40 นาทีที่เสนอความสำคัญของสัตว์ทะเลที่เล็กที่สุดต่อความอยู่รอดของชีวิตทุกประเภทบนโลก 
Jean-Michel Cousteau กล่าวว่าใต้มหาสมุทรแห่งต่างๆ ทั่วโลกยังมีสิ่งมีชีวิตต่างๆ มากมายให้ค้นหา เขาและทีมงานใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบใหม่ที่สามารถบันทึกภาพสัตว์ใต้ทะเลขนาดจิ๋วได้ถึง 30 ชนิดโดยบันทึกเป็นภาพ slow motion แบบสามมิติ สัตว์ทะเลขนาดจิ๋วเหล่านี้ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อนและส่วนมากเกือบมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

เขากล่าวว่าทุกครั้งหลังถ่ายภาพใต้ทะเล ทีมงานจะนำภาพที่ถ่ายได้ไปเปิดดูบนหน้าจอสามมิติบนเรือ และทีมงานต้องสวมแว่นตาสามมิติที่ช่วยให้มองเห็นสัตว์ทะเลขนาดจิ๋วในภาพถ่ายได้ บางครั้งทีมงานตื่นเต้นที่พบสัตว์ทะเลชนิดใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและต้องการกลับไปถ่ายภาพซ้ำในจุดเดิมอีก 
ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานว่าผลงานที่ออกมาพิเศษสุดมาก ภาพยนตร์เชิงสารคดีเรื่อง “Secret Ocean 3D’’ ของ Jean-Michel Cousteau นำเสนอชีวิตสัตว์ใต้ทะเลที่สวยงามแต่มักเต็มไปด้วยอันตราย ที่แม้เเต่สัตว์ทะเลขนาดจิ๋วก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อาหารที่มนุษย์บนโลกพึ่งพา
ใต้ท้องทะเลไม่มีการทิ้งขว้างทรัพยากรธรรมชาติให้สูญเปล่า แต่เขาเตือนว่าขยะจากกิจกรรมของมนุษย์รวมทั้งสารเคมี สารโลหะหนักประเภทต่างๆ และพลาสติกกลายเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของชีวิตสัตว์ใต้ทะเลเหล่านี้ ขยะอันตรายที่ลงไปในทะเลเหล่านี้มีทั้งที่กำลังย่อยสลายและกำลังจมลงไปใต้ทะเล ส่งผลกระทบต่อรากฐานของชีวิตใต้ทะเล ตั้งแต่แพลงตอนไปจนถึงสัตว์ทะเลที่กินแพลงตอนเป็นอาหาร

ค้นพบชีวิตสัตว์ทะเลที่แปลกที่สุดและสุดขั้วที่สุดในหนังสือเรื่อง Extreme Life In The Sea

คุณ Tony Palumbi นักเขียนชาวอเมริกันผู้เขียนหนังสือเล่มนี้กล่าวว่าการศึกษาว่าสัตว์ทะเลอยู่รอดได้อย่างไรในสภาพเเวดล้อมเเบบสุดโต่ง ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นถึงความสามารถที่น่าเหลือเชื่อของสัตว์ทะเลเหล่านี้เมื่อ 20 ล้านปีที่แล้ว ปลาฉลามยักษ์พันธุ์ megalodon เป็นเจ้ามหาสมุทร คุณ Steve Palumbi ชี้ว่าปลาฉลามพันธุ์นี้มีกรามที่ใหญ่มากกว้างถึงสองเมตร เเละมีฟันที่เเหลมคมกว่าใบมีดโกนถึงสามเท่า ปลาฉลามพันธุ์นี้มีฟันอีกสองเเถวที่ขึ้นภายในลำคอเพื่อทดแทนชุดเก่าที่ใช้งานจนทื่อ โดยฟันเเถวใหม่จะค่อยๆ ขยับขึ้นมาทดแทนฟันหน้าของเดิม

นักชีววิทยาทางทะเลอเมริกันไขปริศนาชีวิตใต้ทะเลของเต่าหัวฆ้อนในมหาสมุทรแอตแลนติก

ทีมนักวิจัยในรัฐฟลอริด้าค้นคว้าชีวิตใต้ทะเลที่ลึกลับของลูกเต่าหัวฆ้อนเพื่อหาทางอนุรักษ์เต่าสายพันธุ์นี้ให้อยู่คู่กับมหาสมุทรแอตแลนติกต่อไป

ลูกเต่ามีขนาดเล็กจิ๋วและมักไม่อยู่กับที่ทำให้ยากต่อการติดตามเฝ้าดู การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาชิ้นเเรกที่ติดตามดูพฤติกรรมและการเดินทางใต้ทะเลของเต่าตั้งเเต่ยังเป็นลูกเต่าด้วยการใช้ระบบติดตามแบบตรวจจับสัญญาณระยะไกล
 
คุณ Kate Mansfield นักชีววิทยาทางทะเลเเห่งมหาวิทยาลัย University of Florida เป็นหัวหน้าการวิจัยครั้งนี้ เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าทีมงานใช้ป้ายขนาดจิ๋วติดลงไปบนตัวลูกเต่าหัวฆ้อน (loggerhead) จำนวน 17 ตัวก่อนจะปล่อยลูกเต่าลงสู่ทะเลแอตเเลนติกเหนือที่รัฐฟลอริด้า และทีมงานทำการเฝ้าติดตามดูการเดินทางของลูกเต่าหัวฆ้อนในท้องทะเลนานถึง 220 วัน
 ทีมนักวิจัยคิดว่าข้อมูลที่ได้ทำให้เชื่อว่าทะเลซาร์แกสโซ่อาจจะเป็นเเหล่งอาศัยของเต่าหัวฆ้อนที่จำเป็นต้องพิจารณาถึงแนวทางการอนุรักษ์เพื่อช่วยให้เต่าหัวฆ้อนอยู่รอดได้เเม้ว่าเต่าหัวฆ้อนอาจจะเเวะเวียนเข้าไปอาศัยและหากินในทะเลซาร์แกสโซ่เพียงชั่วคราวก่อนจะเดินทางต่อไปตามกระเเสน้ำทะเลที่ไหลเวียนไปทั่วมหาสมุทรแอตแลนติกอีกครั้ง
คุณ Kate Mansfield หัวหน้าทีมนักวิจัยกล่าวว่ากำลังขยายขอบเขตการศึกษาออกไปนอกเหนือจากเต่าหัวฆ้อนในมหาสมุทรแอตแลนติกโดยจะมุ่งที่จะศึกษาพฤติกรรมของลูกเต่าต่างสายพันธุ์ในท้องมหาสมุทรอื่นๆ อีกด้วยเช่นกัน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น